วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การทำยาหม่องและธูปหอมกำยาน

ยาหม่อง

ลักษณะและสรรพคุณของเครื่องปรุงแต่ละชนิดในการทำยาหม่อง

1.เกล็ดพิมเสน สกัดจากต้นและใบพิมเสน มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีขาวขุ่น

สรรพคุณ : มีกลิ่นหอมเย็น ใช้สูตรดมแก้ลมวิงเวียน ทาภายนอกแก้เคล็ดขัดยอก นอกจากนั้นยังใช้ผสมในน้ำอบไทยและลูกประคบอีกด้วย



2.การบูร ได้จากการสกัดเปลือกจากต้นและเนื้อไม้ ซึงการบูรจะมีลักษณะเป็นเกล็ด เม็ดเล็กๆสีขาว

สรรพคุณ : มีกลิ่นหอม แก้ปวดท้อง แน่นท้อง และแก้ปวดเมื่อยตามตัว



3.น้ำมันสะระแหน่และเมนทอล หรือเกล็ดสะระแหน่ สกัดโดยการกลั่นจากสะระแหน่ จะได้น้ำมันสีขาวใส

สรรพคุณ : มีกลิ่นหอมเย็น ใช้สูดดมแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย และแก้อ่อนเพลีย



4.บีแวกซ์หรือขี้ผึ้งเหนียว มีความอ่อนตัวมากว่าพาราฟิน และมีสีเหลืองอ่อนๆ



5.พาราฟิน มีกลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว



6.วาสลีน มีลักษณะเป็นครีมสีขาว



7.น้ำมันกานพลู สกัดโดยการกลั่นจากดอกกานพลู

สรรพคุณ : มีกลิ่นหอม เผ็ดร้อน แก้ปวดท้องและขับเสมหะ



8.น้ำมันอบเชย ได้จากเปลือกของแขนงต้นอบเชย นำมาตากแห้งแล้สกัดเป็นน้ำมัน

สรรพคุณ : มีกลิ่นหอม แก้จุกเสียดขับลม



9.น้ำมันคาร์เนชั่น ทำจากน้ำมันกานพลูมีลักษณะเป็นน้ำมันใสๆ

10.น้ำมันระกำ มีลักษณะเป็นน้ำมันใสๆ มีกลิ่นหอมฉุน

สรรพคุณ : แก้ปวดเมื่อยและเคล็ดขัดยอก











ยาหม่องน้ำ

วัสดุและอุปกรณ์

1.โกร่ง

2.หลอดฉีดยา

3.แก้วน้ำ

4.แท่งแก้วสำหรับใช้คน

5.ขวดสำหรับบรรจุ

ส่วนผสม

1.พิมเสน 1 ช้อนโต๊ะ

2.การบูร 1 ช้อนโต๊ะ

3.เมนทอล 1 ช้อนโต๊ะ

4.น้ำมันคาร์เนชั่น 3 ช้อนโต๊ะ

5.น้ำมันระกำ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

6.เปปเปอร์มินท์ 1 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำมันกานพลู 1 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำมันอบเชย 1 ช้อนชา

9.สีน้ำมันชนิดผง

ขั้นตอนการทำ

1.นำพิมเสนใส่ลงในโกร่ง แล้วบดให้ละเอียด

2.ใส่การบูรลงไป

3.บดให้เข้ากัน

4.ใส่เมนทอลลงไป

5.ค่อยๆบดให้ละลายเข้ากัน

6.นำส่วนผสมที่ได้เทลงในแก้ว

7.ใส่น้ำมันคาร์เนชั่น น้ำมันระกำ เปปเปอร์มินท์ น้ำมันกานพลู แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

8.หากต้องการให้มีสีสัน ให้ใส่สีน้ำมันชนิดผงลงไปเล็กน้อย คนให้ละลายเข้ากันจนได้สีตามต้องการ

9.บรรจุใส่ลงในขวดสวยงาม

ยาหม่องแห้ง


ยาหม่องแห้งมีลักษณะเป็นครีมสามารถพกพาได้สะดวก ใช้สำหรับทาแก้ปวดเมื่อย และบรรเทาอาการปวดบวมจากแมลงสัตว์กัดต่อย ในปัจจุบันมีการใส่สีสันสวยงามมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า

วัสดุอุปกรณ์

1.หม้อ

2.ทัพพี

3.เตาไฟฟ้า

4.กรวยแก้ว

5.โกร่ง

6.แก้วน้ำ

7.แท่งแก้วสำหรับใช้คน

8.ขวดสำหรับบรรจุ

ส่วนผสม

1.พาราฟิน 15 กรัม

2.บีแวกซ์ 10 กรัม

3.วาสลีน 1 ช้อนชา

4.พิมเสน 2 ช้อนโต๊ะ

5.การบูร 3 ช้อนโต๊ะ

6.เมนทอล 3 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำมันระกำ 4 ช้อนโต๊ะ

8.เปปเปอร์มินท์ 2 ช้อนโต๊ะ

9.น้ำมันกานพลู 1 ช้อนชา

10.น้ำมันอบเชย 1 ช้อนชา

11.สีน้ำมันชนิดผง

ขั้นตอนการทำ

1.ใส่พิมเสนลงในโกร่งแล้วบดให้ละเอียด

2.ใส่การบูรลงไปแล้วบดให้เข้ากัน

3.ใส่เมนทอลแล้วค่อยๆบดให้ละลายเข้ากัน

4.นำส่วนผสมที่ได้นำใส่แก้ว

5.ใส่น้ำมันระกำ แล้วคนให้เข้ากัน

6.ใส่เปปเปอร์มินท์แล้วคนให้เข้ากัน

7.ใส่น้ำมันกานพลู แล้วคนให้เข้ากัน

8.ใส่น้ำมันอบเชย แล้วคนให้เข้ากัน

9.คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันพักไว้

10.นำพาราฟิน บีแวกซ์ และวาสลีนใส่หม้อซึ่งตั้งไฟอ่อนๆ

11.เมื่อส่วนผสมทั้งหมดหลอมละลายจะมีลักษณะเป็นน้ำ

12.นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ในแก้ว เทลงในหม้อที่ตั้งไฟอ่อนๆแล้วคนให้เข้ากัน

13.หากต้องการให้ยาหม่องมีสี ให้ใส่สีน้ำมันชนิดผงลงไปทีละน้อย แล้วคนให้เข้ากัน

14.ตักส่วนผสมใส่ขวดที่เตรียมไว้ จากนั้นห้ามเคลื่อนย้ายขวดยาหม่องจนกว่าจะแน่ใจว่ายาหม่องแห้งจึงปิดฝาได้



ธูปหอมและกำยาน

ธูปหอมเป็นเครื่องหอมเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งของคนไทย ที่มีการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ใช้สำหรับบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นหนึ่งในเครื่องสักการะบูชาด้วย

วัสดุอุปกรณ์

1.กระดาษชนวน หรือกระเบื้องแผ่นเรียบที่ดูดซึมน้ำได้

2.ม้าเตี้ยปักธูป คือ ม้าที่มีขนาด 20 × 40 เซนติเมตร เจาะรูห่างกันประมาณ 2 เซนติเมตร ม้า 1 ตัวปักธูป ได้ประมาณ 171 ดอก

3.ชามอ่าง

4.กะละมัง

5.ถ้วยตวง

ส่วนผสม

1.จันทร์เทศ ½ ถ้วยตง

2.จันทร์ขาว ½ ถ้วยตวง

3.ชะลูด 1/3 ถ้วยตวง

4.อบเชย 1 ช้อนโต๊ะ

5.ผิวมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ

6.กำยานบดละเอียด 2 ช้อนชา

7.พิมเสน 1/3 ถ้วยตวง

8.หัวน้ำหอมกลิ่นมะลิ 2 ช้อนชา

9.น้ำอบไทย

10.แป้งข้าวเจ้ากวน

11.สีย้อมผ้า

12.แกนธูป

ขั้นตอนการผสมธูป

1.นำส่วนผสมลำดับที่1-8ใส่กะละมัง

2.ผสมให้เข้ากัน

3.ใส่แป้งข้าวเจ้ากวน

4.ใส่น้ำอบไทยทีละน้อย

5.นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

6.ใส่สีย้อมผ้าที่ผสมน้ำแล้วทีละน้อย

7.นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนการฟั่นธูป

1.นำแกนธูปจุ่มน้ำสะอาด

2.วางแกนธูปบนกระดาษชนวน ให้ก้านธูปอยู่ด้านซ้ายมือ

3.นำผงธูปที่นวดเสร็จแล้วมาหุ้มที่แกนธูป กดให้แน่นไม่ให้มีอากาศอยู่ด้านในเป็นทรงสามเหลี่ยม ไล่จากขนาดโคนเล็กขึ้นมาใหญ่ถึงหัวธูป

4ฟั่นธูปโดยใช้บริเวณอุ้งมือซ้ายคลึงไปมา ให้ผงธูปติดกับแกนธูปจนเนียนเสมอกัน และใช้นิ้วชี้มือขวาช่วยตกแต่งหัวธูปให้เรียบ

5.ปักธูปลงบนม้าเตี้ย เมื่อได้จำนวนตามที่ต้องการแล้ว ให้นำไปผึ่งไอแดดจนแห้ง ขึ้นนวลจึงตากแดดได้ และควรกลับธูปให้ถูกแดดทุกด้านเพื่อธูปจะได้แห้งสนิททั่วทั้งดอก หากนำธูปไปตากแดดจัดทันทีที่ทำเสร็จ จะทำให้ผิวธูปแตก เพราะการถูกความร้อนทันทีจะทำให้ผิวด้านนอกแห้ง ในขณะที่ด้านในจะยังไม่แห้งจึงทำให้เกิดรอยแตกที่ผิวด้านนอกได้

ขั้นตอนการปั้นกำยานหรือธูปสามเหลี่ยม่

1.ธูปที่นวดเสร็จแล้ว

2.นำผงธูปที่นวดเสร็จแล้วมาปั้นเป็นรูปทรงกรวย

3.วางเรียงกันในถาดจนได้จำนวนตามต้องการแล้วนำไปผึ่งไอแดดจนแห้งสนิท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น