ยาหม่อง
ลักษณะและสรรพคุณของเครื่องปรุงแต่ละชนิดในการทำยาหม่อง
1.เกล็ดพิมเสน สกัดจากต้นและใบพิมเสน มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีขาวขุ่น
สรรพคุณ : มีกลิ่นหอมเย็น ใช้สูตรดมแก้ลมวิงเวียน ทาภายนอกแก้เคล็ดขัดยอก นอกจากนั้นยังใช้ผสมในน้ำอบไทยและลูกประคบอีกด้วย
2.การบูร ได้จากการสกัดเปลือกจากต้นและเนื้อไม้ ซึงการบูรจะมีลักษณะเป็นเกล็ด เม็ดเล็กๆสีขาว
สรรพคุณ : มีกลิ่นหอม แก้ปวดท้อง แน่นท้อง และแก้ปวดเมื่อยตามตัว
3.น้ำมันสะระแหน่และเมนทอล หรือเกล็ดสะระแหน่ สกัดโดยการกลั่นจากสะระแหน่ จะได้น้ำมันสีขาวใส
สรรพคุณ : มีกลิ่นหอมเย็น ใช้สูดดมแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย และแก้อ่อนเพลีย
4.บีแวกซ์หรือขี้ผึ้งเหนียว มีความอ่อนตัวมากว่าพาราฟิน และมีสีเหลืองอ่อนๆ
5.พาราฟิน มีกลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว
6.วาสลีน มีลักษณะเป็นครีมสีขาว
7.น้ำมันกานพลู สกัดโดยการกลั่นจากดอกกานพลู
สรรพคุณ : มีกลิ่นหอม เผ็ดร้อน แก้ปวดท้องและขับเสมหะ
8.น้ำมันอบเชย ได้จากเปลือกของแขนงต้นอบเชย นำมาตากแห้งแล้สกัดเป็นน้ำมัน
สรรพคุณ : มีกลิ่นหอม แก้จุกเสียดขับลม
9.น้ำมันคาร์เนชั่น ทำจากน้ำมันกานพลูมีลักษณะเป็นน้ำมันใสๆ
10.น้ำมันระกำ มีลักษณะเป็นน้ำมันใสๆ มีกลิ่นหอมฉุน
สรรพคุณ : แก้ปวดเมื่อยและเคล็ดขัดยอก
ยาหม่องน้ำ
วัสดุและอุปกรณ์
1.โกร่ง
2.หลอดฉีดยา
3.แก้วน้ำ
4.แท่งแก้วสำหรับใช้คน
5.ขวดสำหรับบรรจุ
ส่วนผสม
1.พิมเสน 1 ช้อนโต๊ะ
2.การบูร 1 ช้อนโต๊ะ
3.เมนทอล 1 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำมันคาร์เนชั่น 3 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำมันระกำ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
6.เปปเปอร์มินท์ 1 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำมันกานพลู 1 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำมันอบเชย 1 ช้อนชา
9.สีน้ำมันชนิดผง
ขั้นตอนการทำ
1.นำพิมเสนใส่ลงในโกร่ง แล้วบดให้ละเอียด
2.ใส่การบูรลงไป
3.บดให้เข้ากัน
4.ใส่เมนทอลลงไป
5.ค่อยๆบดให้ละลายเข้ากัน
6.นำส่วนผสมที่ได้เทลงในแก้ว
7.ใส่น้ำมันคาร์เนชั่น น้ำมันระกำ เปปเปอร์มินท์ น้ำมันกานพลู แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
8.หากต้องการให้มีสีสัน ให้ใส่สีน้ำมันชนิดผงลงไปเล็กน้อย คนให้ละลายเข้ากันจนได้สีตามต้องการ
9.บรรจุใส่ลงในขวดสวยงาม
ยาหม่องแห้ง
ยาหม่องแห้งมีลักษณะเป็นครีมสามารถพกพาได้สะดวก ใช้สำหรับทาแก้ปวดเมื่อย และบรรเทาอาการปวดบวมจากแมลงสัตว์กัดต่อย ในปัจจุบันมีการใส่สีสันสวยงามมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า
วัสดุอุปกรณ์
1.หม้อ
2.ทัพพี
3.เตาไฟฟ้า
4.กรวยแก้ว
5.โกร่ง
6.แก้วน้ำ
7.แท่งแก้วสำหรับใช้คน
8.ขวดสำหรับบรรจุ
ส่วนผสม
1.พาราฟิน 15 กรัม
2.บีแวกซ์ 10 กรัม
3.วาสลีน 1 ช้อนชา
4.พิมเสน 2 ช้อนโต๊ะ
5.การบูร 3 ช้อนโต๊ะ
6.เมนทอล 3 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำมันระกำ 4 ช้อนโต๊ะ
8.เปปเปอร์มินท์ 2 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำมันกานพลู 1 ช้อนชา
10.น้ำมันอบเชย 1 ช้อนชา
11.สีน้ำมันชนิดผง
ขั้นตอนการทำ
1.ใส่พิมเสนลงในโกร่งแล้วบดให้ละเอียด
2.ใส่การบูรลงไปแล้วบดให้เข้ากัน
3.ใส่เมนทอลแล้วค่อยๆบดให้ละลายเข้ากัน
4.นำส่วนผสมที่ได้นำใส่แก้ว
5.ใส่น้ำมันระกำ แล้วคนให้เข้ากัน
6.ใส่เปปเปอร์มินท์แล้วคนให้เข้ากัน
7.ใส่น้ำมันกานพลู แล้วคนให้เข้ากัน
8.ใส่น้ำมันอบเชย แล้วคนให้เข้ากัน
9.คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันพักไว้
10.นำพาราฟิน บีแวกซ์ และวาสลีนใส่หม้อซึ่งตั้งไฟอ่อนๆ
11.เมื่อส่วนผสมทั้งหมดหลอมละลายจะมีลักษณะเป็นน้ำ
12.นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ในแก้ว เทลงในหม้อที่ตั้งไฟอ่อนๆแล้วคนให้เข้ากัน
13.หากต้องการให้ยาหม่องมีสี ให้ใส่สีน้ำมันชนิดผงลงไปทีละน้อย แล้วคนให้เข้ากัน
14.ตักส่วนผสมใส่ขวดที่เตรียมไว้ จากนั้นห้ามเคลื่อนย้ายขวดยาหม่องจนกว่าจะแน่ใจว่ายาหม่องแห้งจึงปิดฝาได้
ธูปหอมและกำยาน
ธูปหอมเป็นเครื่องหอมเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งของคนไทย ที่มีการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ใช้สำหรับบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นหนึ่งในเครื่องสักการะบูชาด้วย
วัสดุอุปกรณ์
1.กระดาษชนวน หรือกระเบื้องแผ่นเรียบที่ดูดซึมน้ำได้
2.ม้าเตี้ยปักธูป คือ ม้าที่มีขนาด 20 × 40 เซนติเมตร เจาะรูห่างกันประมาณ 2 เซนติเมตร ม้า 1 ตัวปักธูป ได้ประมาณ 171 ดอก
3.ชามอ่าง
4.กะละมัง
5.ถ้วยตวง
ส่วนผสม
1.จันทร์เทศ ½ ถ้วยตง
2.จันทร์ขาว ½ ถ้วยตวง
3.ชะลูด 1/3 ถ้วยตวง
4.อบเชย 1 ช้อนโต๊ะ
5.ผิวมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ
6.กำยานบดละเอียด 2 ช้อนชา
7.พิมเสน 1/3 ถ้วยตวง
8.หัวน้ำหอมกลิ่นมะลิ 2 ช้อนชา
9.น้ำอบไทย
10.แป้งข้าวเจ้ากวน
11.สีย้อมผ้า
12.แกนธูป
ขั้นตอนการผสมธูป
1.นำส่วนผสมลำดับที่1-8ใส่กะละมัง
2.ผสมให้เข้ากัน
3.ใส่แป้งข้าวเจ้ากวน
4.ใส่น้ำอบไทยทีละน้อย
5.นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
6.ใส่สีย้อมผ้าที่ผสมน้ำแล้วทีละน้อย
7.นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
ขั้นตอนการฟั่นธูป
1.นำแกนธูปจุ่มน้ำสะอาด
2.วางแกนธูปบนกระดาษชนวน ให้ก้านธูปอยู่ด้านซ้ายมือ
3.นำผงธูปที่นวดเสร็จแล้วมาหุ้มที่แกนธูป กดให้แน่นไม่ให้มีอากาศอยู่ด้านในเป็นทรงสามเหลี่ยม ไล่จากขนาดโคนเล็กขึ้นมาใหญ่ถึงหัวธูป
4ฟั่นธูปโดยใช้บริเวณอุ้งมือซ้ายคลึงไปมา ให้ผงธูปติดกับแกนธูปจนเนียนเสมอกัน และใช้นิ้วชี้มือขวาช่วยตกแต่งหัวธูปให้เรียบ
5.ปักธูปลงบนม้าเตี้ย เมื่อได้จำนวนตามที่ต้องการแล้ว ให้นำไปผึ่งไอแดดจนแห้ง ขึ้นนวลจึงตากแดดได้ และควรกลับธูปให้ถูกแดดทุกด้านเพื่อธูปจะได้แห้งสนิททั่วทั้งดอก หากนำธูปไปตากแดดจัดทันทีที่ทำเสร็จ จะทำให้ผิวธูปแตก เพราะการถูกความร้อนทันทีจะทำให้ผิวด้านนอกแห้ง ในขณะที่ด้านในจะยังไม่แห้งจึงทำให้เกิดรอยแตกที่ผิวด้านนอกได้
ขั้นตอนการปั้นกำยานหรือธูปสามเหลี่ยม่
1.ธูปที่นวดเสร็จแล้ว
2.นำผงธูปที่นวดเสร็จแล้วมาปั้นเป็นรูปทรงกรวย
3.วางเรียงกันในถาดจนได้จำนวนตามต้องการแล้วนำไปผึ่งไอแดดจนแห้งสนิท
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น